1. เนียนๆ ทำความรู้จักกันก่อน
ใครที่แอบชอบเพื่อนของเพื่อน พี่ชายของเพื่อน เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอีกที ก็ยังถือว่าโชคดีค่ะ อย่างน้อยขั้นตอนการทำความรู้จักก็จะง่ายขึ้น แต่ใครที่แอบปิ๊งคนต่างคณะ หรือหนุ่มนักบาสของโรงเรียน อาจจะยากหน่อยเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มให้ใครแนะนำเธอและเขาได้รู้จักกัน แบบนี้เราต้องเริ่มสร้างสถานการณ์!
- ถ้าบังเอิญได้เดินสวนกับเขา หรือเจอเขาระหว่างเปลี่ยนคาบเรียน เจอเขาที่โรงอาหาร อย่าลืมสบตากับ
เขา อย่าหลบตา รู้ว่าเขิน แต่ต้องทำใจแข็งสบตากับเขาหน่อย อย่างน้อยที่สุดก็ให้เขาได้เคยเห็นหน้า
เราบ้าง ถ้าเห็นหน้าเราบ่อยๆ เขาจะจำได้เอง
- สมัยนี้มี facebook แล้วจะกลัวอะไร ง่ายขึ้นตั้งเยอะ Add friend ไปเลยยยยอย่าได้ลังเล จริงๆ การ
add friend ใน facebook เป็นเหมือนการบอกใบ้อีกฝ่ายไปในตัวให้รู้ว่า “นี่ฉันสนใจเธอจริงๆ นะ” ยิ่ง
ถ้าเราทำต่อเนื่องจากข้อข้างบนด้วยล่ะก็ เขาจะรู้แน่ชัดแน่นอนว่าเรากำลังหมายปองเขาอยู่
- หลังจากที่เรากับเขาเป็น friend ใน facebook แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ “ส่อง” ค่ะ ส่องในที่นี้หมาย
ถึงสำรวจว่าเขาเป็นคนอย่างไร ชอบอะไรเป็นพิเศษ กิจกรรมยามว่างของเขาคืออะไร เขากำลังสนใจ
อะไรอยู่ นอกจากนี้เรายังสามารถแอบตามดูชีวิตของเขาใน Instagram ก็ได้เช่นกันค่ะ
- เมื่อเราสำรวจจนแน่ใจแล้วว่าเราชอบและสนใจเขาจริงๆ ให้เริ่มปฏิบัติภารกิจต่อไปได้ทันทีโดยเริ่มจาก
การ like สิ่งที่เขาโพสต์ ไม่ว่าจะเป็นรูป กระทู้ที่เขาแชร์ หรือสเตตัสที่เขาตั้ง like บ่อยๆ เขาก็จะสังเกต
เห็นเอง แต่ต้อง like ในสิ่งที่เราชอบจริงๆ ไม่ใช่ like ดะ like ทุกอย่างที่เขาโพสต์ แบบนี้ก็จะดูไม่เป็น
ตัวของตัวเองและดูพยายามมากเกินไปหน่อย หนุ่มๆ อาจจะรู้สึกแปลกๆ กับเราได้ค่ะ (เขาจะรู้สึกว่ายัย
นี่ดูน่ากลัวจัง...) ถึงตรงนี้อย่าลืมรอดูปฏิกิริยาการตอบกลับของเขาด้วย ถ้าเขาเริ่มมา like รูปหรือ
โพสต์ของเรากลับ นั่นเริ่มเป็นสัญญาณที่ดีแล้วค่ะ
- ถ้าเขาเริ่มมา like หรือ comment เราบ้างเป็นครั้งคราว เราสามารถเริ่มขั้นตอนต่อไปได้แล้วค่ะ ลองทัก
เขาไปใน chat ดูค่ะ ถึงแม้ว่าขั้นตอนนี้จะต้องอาศัยความกล้ามากเป็นพิเศษ แต่พี่เตยบอกเลยนะว่าคุ้ม
แน่นอน หลายคนอาจไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบทสทนายังไงดี ง่ายนิดเดียวค่ะ เราอาจทักเขาคนนั้นไปเพื่อชวน
เขามา like page ที่เราสร้างขึ้นเอง หรืออาจชวนคุยหรือตั้งคำถามจากโพสต์ล่าสุดของเขาก็ได้เช่นกัน
เช่น
“เราเพิ่งเปิดเพจวาดการ์ตูนฝีมือเราเอง ฝาก like ด้วยน้า”
หรือ “เราเพิ่งไปดูหนังเรื่องนี้มาเหมือนกัน ชอบเพลงซาวน์แทรคมาก” เป็นต้น
เทคนิคสำคัญคือให้ถามคำถามที่เป็น Simple Question คือต้องไม่เจาะจงมากเกินไป เป็นคำถามทั่วไป และควรเป็นคำถามปลายเปิดที่สามารถมี following question ได้ เพื่อที่เราจะได้ชวนคุยต่อไปเรื่อยๆ นั่นเองค่ะ พยายามหลีกเลี่ยงคำถามที่จะได้คำตอบเพียงแค่ใช่กับไม่ เพราะจะทำให้บทสนทนาจบลงอย่างรวดเร็วนั่นเองค่ะ แต่ถ้าเราเพิ่งได้คุยกับเขาในครั้งแรกๆ อาจจะคุยด้วยไม่กี่ประโยคแล้วก็เงียบๆ ไป อย่าเพิ่งใส่แหลกในการสนทนาครั้งแรกๆ เพราะอาจทำให้อีกฝ่ายไม่ชอบใจได้ค่ะ
2. เป็นตัวของตัวเอง
หลังจากที่เริ่มมีโอกาสได้พูดคุยกับหนุ่มคนนั้นแล้ว อย่าลืมคุยกับเขาอย่างสม่ำเสมอ หาหัวข้อในการสนทนาที่เราและเขาต่างสนใจเหมือนกันอย่างเพลง หนัง ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ ที่สำคัญคือให้ลองสังเกตว่าหนุ่มคนนี้กำลังสนใจอะไรมากเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่เราก็มีความสนใจเช่นเดียวกันจะยิ่งทำให้คุยกับเขาได้ง่ายขึ้นค่ะ แต่ถ้าเขาสนใจในเรื่องที่เราไม่ชอบเลยและไม่รู้ว่าจะคุยอะไรดี ให้ลองคุยเรื่องอื่นๆ กับเขาแทนค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่เขาสนใจก็ได้ ถ้าสาวๆ คนไหนคิดว่าจะพยายามคุยแต่เรื่องที่เขาสนใจ และแสร้งทำเป็นว่าเราก็สนใจเหมือนเขาล่ะก็ พี่เตยบอกเลยว่าวิธีนี้ไม่ค่อยเวิร์คน้า เพราะผลสุดท้ายแล้วจะกลายเป็นว่าฝืนคุยกันไปทั้งสองฝ่าย จนทำให้บทสนทนาดูกร่อยลงเรื่อยๆ จนคนสองคนไม่อยากคุยกันค่ะ
- พยายามทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขามีความสำคัญโดยใช้บทสนทนาเป็นตัวสื่อ เช่น วันนี้เราไปร้านกาแฟ
ร้านนี้มา เพิ่งเปิดได้ไม่นาน นึกถึงเธอเลย เธอน่าจะชอบร้านสไตล์นี้
- อย่าลืมชมเขาด้วยความจริงใจ (ต้องจริงใจนะ สำคัญมาก) รอให้มีโอกาสสำคัญๆ อาจเป็นคลิปวีดีโอ
สั้นๆ ที่เขาดีดกีต้าร์โปร่งและร้องเพลง อาจทักแชทไปแล้วบอกว่าร้องเพลงเพราะนะ เท่ดี > < แต่อย่า
ชมพร่ำเพื่อเพราะมันจะดูเฟคๆ เพราะอย่างที่บอกว่าความจริงใจสำคัญมาก
- ถ้าเรามีความสนใจที่ตรงกับเขาอาจโพสต์นู้นนี่เพื่อทำให้เขารู้จักตัวตนของเรามากขึ้น แต่ก็อย่าโพสต์
เยอะแยะมากมายจนดูน่ารำคาญ เพราะจากที่เขากำลังจะเริ่มสนใจในตัวเรา อาจกลายเป็นเขาถอยหนี
จากเราไปก็ได้ค่ะ
- พยายามเป็นตัวของตัวเอง อย่าประดิษฐ์คำพูดก่อนที่จะพิมพ์คุยกับเขา เพราะเนื่องจากเราสนทนากับ
เขาผ่านทางออนไลน์ มันไม่เหมือนกันกับการพูดคุยกันต่อหน้าจริงๆ อย่าพยายามคิดแล้วคิดอีกว่าพิมพ์
แบบนี้ไป เขาจะโอเคมั้ย เพราะมันจะทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเองค่ะ คิดอะไรก็พิมพ์ไปเลย เวลาเจอ
กันจริงๆ จะเป็นตัวตัดสินเองว่าเขาโอเคกับเรารึเปล่า
3. ได้เวลาเจอตัวจริงแล้ว
หลังจากที่เริ่มคุยกันผ่านตัวอักษรมาได้ซักพัก ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะได้เจอตัวจริงกันซักที ลองดูท่าทีของเขาก่อนว่ามีแนวโน้มที่เขาจะชวนเราไปเที่ยวด้วยกันหรือไม่ ถ้าเขาถามถึงวันพรุ่งนี้หรือเสาร์อาทิตย์นี้ไปไหนรึเปล่า ให้กรี๊ดได้เบาๆ หนึ่งทีว่าเขากำลังอยากชวนเราไปเที่ยวด้วยค่ะ >////< แต่ถ้าเขายังไม่เอ่ยปากถามล่ะก็ เราสามารถเป็นฝ่ายถามเขาก่อนได้ค่ะ โดยเราอาจถามถึงแพลนของเขาในวันเสาร์อาทิตย์ที่กำลังจะถึงนี้ว่าเขาต้องไปไหนรึเปล่า ถ้าเขาบอกว่าว่าง หรือ ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดี เราอาจเอ่ยปากชวนเขาไปเที่ยวด้วยกันก็ได้ค่ะ
- ปัญหาโลกแตกของสาวๆ หลายคนคือเดทครั้งแรกไม่รู้จะไปไหนดี จริงๆ แล้วเราควรหาสถานที่หรือ
กิจกรรมที่ทั้งเราและเขามีความสนใจตรงกัน เช่น อาจเป็นหนังซักเรื่องที่เพิ่งเข้าและเป็นเรื่องที่เรากับ
เขากำลังอยากดูอยู่พอดี แต่ถ้าช่วงนั้นไม่มีอีเว้นอะไรที่น่าสนใจเลย อาจจะชวนกันไปนั่งร้านกาแฟ
บรรยากาศดีๆ ซักร้านก็ได้เหมือนกันค่ะ
- พี่เตยเชื่อว่าสาวๆ หลายคนน่าจะประหม่าและวิตกกังวลกับการเดทครั้งแรกมาก แต่พยายามทำใจให้
สบาย และที่สำคัญต้องเป็นตัวของตัวเอง อย่าลืมยิ้มแย้มแจ่มใส มองโลกในแง่ดี ทำตัวสบายๆ ไม่ต้อง
เกร็ง แล้วทุกอย่างจะดีเองค่ะ
- การไปเจอกันครั้งแรกเรียกได้ว่าเป็นการชี้เป็นชี้ตายกับความสัมพันธ์ครั้งนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะเราจะรู้
ได้ตั้งแต่การเดทครั้งแรกว่าคนนี้โอเคหรือไม่ คุยกันรู้เรื่องรึเปล่า เพราะการได้เจอกันตัวเป็นๆ จะทำให้
เรารู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ดีกว่าการคุยผ่านตัวอักษรเยอะเลย
- ภาษากายต่างๆ ก็สำคัญ พยายามหลีกเลี่ยงการกอดอก เพราะการกอดอกจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราดู
ไม่เป็นมิตรและเข้าถึงยาก นอกจากนี้อย่าลืมเสยผม เพราะจะทำให้เราดูมีเสน่ห์และน่าค้นหามากขึ้น
ด้วยค่ะ
4. ประเมินสถานการณ์
หลังจากที่การเดทครั้งแรกจบลงให้ลองสังเกตพฤติกรรมของอีกฝ่าย ถ้าเขาคุยกับเรามากกว่าเดิม เป็นฝ่ายทักเรามาก่อน หรือเขาอยากชวนเราไปเดทครั้งที่ 2 นั่นแปลว่าการเดทครั้งแรกนั้นประสบความสำเร็จค่ะ ขั้นตอนต่อไปคือเราต้องมีฟอร์มบ้าง รอให้เขาเป็นฝ่ายชวนออกไปนู้นไปนี่เอง แต่ต้องใจแข็งไม่ชวนเขาก่อนล่ะ
- ลองไม่ทักเขาไปก่อน รอให้เขาเป็นฝ่ายทักมาบ้าง เมื่อเขาทักมาอาจบอกว่าตื่นสาย หรืออาจจะบอกว่า
กำลังยุ่งๆ อยู่เลยไม่ทันได้ทักไป ถ้าเราเคยคุยกับเขาทุกวัน หรือเราต้องทักเขาไปทุกเช้า ถ้าวันไหน
พฤติกรรมของเราเปลี่ยนไป เขาจะนึกถึงเราค่ะ
- ถ้าเขาชวนออกไปเจอกันครั้งที่สอง อย่าเพิ่งตอบตกลงในทันที อาจจะบอกว่าไม่ว่างทั้งวัน แต่เจอกัน
ตอนเย็นๆ ได้ เราทำแบบนี้เพื่อให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้ว่างเพื่อเขาตลอดเวลานะ เราก็มีอย่างอื่นต้องทำ
เหมือนกัน
- ลองขยับความใกล้ชิดให้เพิ่มมากขึ้นจากการคุยกันผ่านตัวอักษรเป็นการคุยโทรศัพท์แทน เชื่อเถอะว่า
ถ้ามีโอกาสได้คุยโทรศัพท์กันแล้ว เราจะรู้จักอีกฝ่ายได้ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่การคุยโทรศัพท์แรกๆ จะ
ค่อนข้างเป็นสถานการณ์ที่อึดอัดใจมากกกกกกกก เพราะเราอาจจะเขิน ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร เกร็ง จน
บางครั้งพูดไม่รู้เรื่อง พี่เตยแนะนำว่าให้จดลิสต์ใส่กระดาษไว้เลยว่าเราจะชวนเขาคุยเรื่องอะไรบ้าง จะ
ได้มีหัวข้อให้คุยได้เรื่อยๆ และไม่ทำให้บรรยากาศในการคุยโทรศัพท์ดูอึดอัดด้วยค่ะ
- ถ้าทุกอย่างกำลังไปได้สวย อย่าเพิ่งใจร้อนงอแงว่าทำไมเขายังไม่ขอเป็นแฟนซักที ให้รอจังหวะที่
ลงตัวก่อน ให้คุยและทำความรู้จักเขาไปอีกซักพักจะดีกว่าค่ะ อย่าลืมน้า… ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามเน้อ
สัญญาณที่ดีว่าเขาชอบเรากลับ
* เขาเปิดใจคุยกับเรามากขึ้น รวมถึงคววามลับต่างๆ ที่ในวัยเด็ก เรื่องของครอบครัว หรือเรื่องโจ๊กที่
ทำให้เขาหน้าแตก รวมถึงความไม่สบายใจของเขาด้วย
* เขาดูผ่อนคลายมากกว่าเดิม มีอารมณ์ขันมากขึ้น
* ถึงเขาจะยุ่งมากแค่ไหน แต่เขาก็หาเวลามาคุยกับเรา ไม่ปล่อยให้เรารอ รวมถึงเขาจะพยายามตอบ
เราทันทีที่เขาทำได้ และเมื่อเขาไม่ได้รับสายที่เราโทรไป เขาจะโทรกลับทันทีที่เขาเห็น
* เขาจำเรื่องส่วนตัวของเราได้ และเขารู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร
* เขาแนะนำเราให้รู้จักกับกลุ่มเพื่อนๆ และครอบครัวของเขา
* เขาออกสื่อว่ากำลังคุยๆ กับเราอยู่
ขอบคุณที่มาเนื้อหา : dek-d.com
Categories:
Love
0 ความคิดเห็น: