วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

อาหารต้านอนุมูลอิสระ



สารต้านอนุมูลอิสระแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ดังนี้

        1. ชนิดที่ร่างกายสร้างขึ้น: ร่างกายคนเราสามารถสร้างขึ้นได้เองซึ่งก็คือเอนไซม์บางชนิด ได้แก่ Superoxide dismutase (SOD), Catalase (กสท.), กลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเด (GPX) reductase กลูตาไธโอน

       2. ชนิดที่ได้รับจากอาหาร: ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากภายนอกซึ่งมาจาก "อาหาร" โดยเฉพาะอาหารประเภทผักผลไม้ซึ่งผลการศึกษาระบุว่าคนที่นิยมบริโภคผักผลไม้ จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคน้อยกว่าผู้ที่ไม่นิยมบริโภคผัก ผลไม้


    เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสร้างขึ้นนั้น ไม่เพียงพอต่อการกำจัดอนุมูลอิสระที่มีปริมาณมากได้ จึงต้องอาศัยการรับประทานอาหาร ที่เป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้น

ขอบอก! อาหารเหล่านี้...ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระนะ

•ชาเขียวชาฝรั่งชาอู่หลง: ในชามีสารที่ให้รสฝาดเรียกว่า "Catechin" เป็นสารประเภทโพลีฟีนอลชนิดหนึ่ง ซึ่งสารประเภทนี้มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และเคล็ดลับในการชงชาที่ถูกต้องคืออย่าใช้น้ำเดือด ๆ ชงควรใช้เป็นน้ำอุ่น ๆ เพราะจะทำให้สาร Catechin ทำงานได้ดี

•เมล็ดงาน้ำมันงา: มีสารที่ชื่อว่า "Sesameal" หรือ "Sesamin" ซึ่งช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจำนวนมาก จากการจัดการกับสารเคมีที่ตับ

•อาหารทะเลบางอย่าง: ส่วนที่เป็นสีแดงของปลาแซลมอนไข่ปลาแซลมอนและเปลือกกุ้งหรือกระดองปูมีสารต้านอนุมูลอิสระ "Astaxanthin" จัดเป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์เคล็ดลับในการรับประทานกุ้งปูเพื่อให้ ได้สาร Astaxanthin ในรูปที่พร้อมทำงานได้ต้องทานร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซี หรือสารต้านอนุมูลอิสระชนิดละลายน้ำอื่นๆ

•ไวน์แดง (ในปริมาณที่พอเหมาะ): จากการทดสอบของฝรั่งเศสพบว่าสารกลุ่มโพลีฟีนอลในไวน์แดง ช่วยทำให้โคเลสเตอรอลชนิดไม่ดีถูกทำปฏิกิริยาออกซิเดชันยากขึ้น อนุมูลอิสระจึงน้อยลง

•โกโก้ช็อคโกแลต: มีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดโพลีฟีนอลเช่นกัน กล่าวอย่างง่ายๆคือช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวป้องกันโรคหัวใจเลือดออกในสมองป้องกันมะเร็งอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน และช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกันให้สมดุล เป็นต้น

•มะเขือเทศแตงโม: มีสารสีแดงชื่อ "ไลโคปีน" ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ในมะเขือเทศ 100 กรัมมีไลโคปีนอยู่ 3,100 ไมโครกรัม

 •หัวหอมแอปเปิ้ล: มีสารที่ชื่อว่า "Quercetin" จัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์วารสารการแพทย์ของอังกฤษลงพิมพ์ผลการวิจัยเรื่องของ Quercetin ว่าผู้ที่ได้รับสารนี้ในปริมาณที่มากพอ มีโอกาสเกิดโรคหัวใจชนิดต่างๆ เนื่องจากหลอดเลือดแข็งตัวยากกว่ากลุ่มที่ได้รับน้อยกว่า

 •ใบแปะก๊วย: นับเป็นแหล่งที่เก็บสารประกอบฟลาโวนอยด์ โดยเฉพาะใบที่มีสีเขียวเข้ม ยิ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพดีอย่าง "Ginkgolide" ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยละลายลิ่มเลือดขยายหลอดเลือด ด้วยเหตุนี้จึงนิยมใช้เป็นยาในผู้ที่มีอาการหลงลืม


สารอาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ !!!

•วิตามินซี พบได้ในฝรั่งส้มมะขามป้อมมะละกอสุกพริกชี้ฟ้าเขียวบร็อคโคลีผักคะน้ายอดสะเดาผักหวานผักกาดเขียวตำลึงผักบุ้งเป็นต้น

•วิตามินอีมีในน้ำมันพืชต่างๆ เช่นน้ำมันจากจมูกข้าวสาลีน้ำมันดอกทานตะวันน้ำมันข้าวโพดน้ำมันถั่วเหลืองน้ำมันดอกคำฝอยเมล็ดทานตะวันเมล็ดอัลมอนด์จมูกข้าวสาลี

•ซีลีเนียม มีมากในอาหารทะเลปลาทูน่าเนื้อสัตว์ตับบะหมี่ไก่ปลาขนมปังโฮลวีท

•วิตามินเอ มีมากในตับหมูตับไก่ไข่โดยเฉพาะไข่แดงน้ำนมผักที่มีสีเขียวเข้มผลไม้ที่มีสีเหลืองส้มเช่นผักตำลึงผักกวางตุ้งผักบุ้งฟักทองมะม่วงสุกมะละกอสุกมะเขือเทศ

•แคโรทีนอยด์ (เบต้าแคโรทีนลูทีนและไลโคปีน) มีมากในผักที่มีสีเขียวเข้มผลไม้ที่มีสีเหลืองส้มเช่นผักตำลึงผักกวางตุ้งผักบุ้งฟักทองมะม่วงสุกมะละกอสุกมะเขือเทศ


ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.suvarnachad.co.th




Share This

0 ความคิดเห็น: